รีวิวการทำบัตรประชาชน และพาสปอร์ตใน 1 วัน ที่เมืองไทย

 รีวิวการทำบัตรประชาชน และพาสปอร์ตใน 1 วัน ที่เมืองไทย

เชื่อว่าหลังจากสถานการณ์โควิดเมื่อปลายปี 2019 จนถึงปี 2022 หลายคนที่ประเทศประสบเหตุการณ์เอกสารทางราชการที่ไทยหมดอายุ ไม่ว่าจะเป็น บัตรประชาชน – พาสปอร์ต -ใบขับขี่

ตุ๊กก็เป็นเช่นนั้นค่ะ บัตรประชาชนหมดอายุ มกราคม 2021 ส่วนพาสปอร์ตจะหมดอายุ เมษายน 2022

ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องทำเมื่อกลับถึงไทยคือการทำบัตรประชาชนและต่ออายุพาสปอร์ต

โชคดีว่าปัจจุบันเราสามารถทำบัตรประชาชนได้ทุกเขตอำเภอทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องกลับไปทำที่ภูมิลำเนา ตุ๊กจับคู่สถานที่ที่ทำบัตรประชาชน + สถานที่ที่ทำพาสปอร์ตที่ใกล้กันที่สุด

สรุป

1.ที่ทำบัตรประชาชน ที่สำนักงานเขตปทุมวัน (เปิดเวลา 8.00 น.) เราก็สามารถไปรอได้ตั้งแต่ 7.30 น. จะมีเก้าอี้ให้นั่งรถเพื่อเข้าคิวข้างหน้าประตู ใช้เวลาทำไม่ถึง 20 นาทีค่ะ หลักฐานที่ใช้คือยื่นบัตรเดิมให้เจ้าหน้าที่ ไม่ได้เสียค่าปรับด้วยค่ะ ถ้าจำไม่ผิด ไม่ได้จ่ายเงิน (รึเปล่า นานแล้วจำไม่ได้)

2. ทำพาสปอร์ตที่ห้างมาบุญครอง (สำนักงานเขตปทุมวัน เปิดเวลา 10.00 น.) ตอนแรกไปนั่งรอเวลาเปิดแต่ความจริงห้างก็เปิดประตูแล้ว และจองคิวออนไลน์ไว้ด้วย แต่ด้วยความที่คนน้อยก็เข้ายื่นเอกสารได้เลย ต้องบอกว่าที่นี่เป็นแบบเป็นการทำพาสปอร์ตพัฒนามาก เป็นแบบ SelfService มีเคาท์เตอร์บริการหลายเคาท์เตอร์ และมีเจ้าหน้าที่คอยให้ความช่วยเหลือ

เรากรอกข้อมูลเองทุกอย่างผ่านหน้าจอ ถ่ายรูปเอง สามารถถ่ายรูปใหม่ได้ และที่สำคัญคือเราเลือกอายุพาสปอร์ตได้ จะเอา 5 ปี หรือ 10 ปี ตุ๊กเลือก 10ปี มารู้ราคาทีหลังนะคะว่า ค่าธรรมเนียมพาสปอร์ต5 ปี ราคา 1000บาท /ค่าธรรมเนียม 10 ปี ราคา 1500 บาท เลยคิดว่าตัวเองเลือกถูกประหยัดไป 500 บาท

ให้จัดส่งทางไปรณษณีย์ 40 บาทแบบด่วน ได้รับพาสปอร์ตที่บ้านต่างจังหวัดเพชรบูรณ์ 2 วันหลังจากนั้น ถือว่ารวดเร็วดีค่ะ (เสียดายว่าใกล้ๆกันนี้มีจุดบริการทำบัตรประชาชนด้วย แต่ต้องปิดบริการชั่วคราวเพราะสถานการณ์โควิด ไม่งั้นคงจบงานที่เดียว)

**บัตรประชาชนหมดอายุ สามารถใช้ทำ ThailandPassได้

**โรงแรมที่จองที่พักหลังจากออกจากกักตัวคือ Mercure Bangkok Siam เพื่อความสะดวกในการเดินทาง และตอนนี้คือถ้าเราจอง ibis siam จะได้อัพเกรดเป็น Mercure siam นะคะ ในส่วนของ ibis จะปิดบริการ จอง ibis ราคาจะถูกกว่า mercure

+3

21

จำนวนคนที่เข้าถึง

3

จำนวนการมีส่วนร่วม

โปรโมทโพสต์

1Life in Belgique ชีวิตในเบลเยียม

ไทยเปิดประเทศ - กักตัว 7 วัน - ThailandPass - บินจากเบลเยียม - Test and GO สมัครช้า

 สวัสดีจากไทยแลนด์ค่ะ

เพิ่งพ้นจากการกักตัว 7 วัน เข้าวันที่ 4

วันนี้จะมาเล่าให้ฟังค่ะเรื่องการเดินทางออกจากเบลเยียม.

1. ดำเนินเอกสารทุกอย่าง

1.1 ตั๋วเครื่องบิน

1.2ใบจองโรงแรมกักตัว 7 วัน ( ต้องจองแบบกักตัวเพราะจอง test and go ไม่ทัน ไม่อยากเลื่อนตั๋วรอรอบใหม่ กักตัวก็สบายใจดี)

1.3ทำไทยแลนด์พาส ( ได้รับคิวอาร์โค้ดภายใน 2 ชม.)

1.4 จองตรวจ pcr ผลตรวจ 72 ชม. ก่อนบิน

1.4.1 โทรแจ้งหมอบ้าน หมอประจำตัวว่าจะขอตรวจเพื่อการเดินทาง หมอสอบถามข้อมูลเบื้องต้น วันที่เดินทาง วันเดือนปีเกิด เบอร์โทร จากนั้น 3 วันจะได้รับ code เพื่อไปจองวันที่เราจะตรวจ pcr

1.4.2 เข้าเว็บไซต์เพื่อทำการลงทะเบียน, ใส่ code, เลือกสถานที่, เลือกวันเวลาที่ตรวจ ลงทะเยียนจะได้รับอีเมลล์​ยืนยัน ( เราสามารถยกเลิกหรือเลื่อนวันได้ นัดใหม่โดยใช้code เดิม)​

1.4.3 ตุ๊กบินวันที่ 22 มค จองตรวจวันที่ 20 มค. ได้รับผลตรวจ 21 มค. ตอน 7 โมงเช้า ทาง sms มือถือ ช่วงใกล้เที่ยงได้รับเอกสารทางอีเมลล์

1.5 ตุ๊กซื้อประกันโค​วิดจากเบลเยียมไปด่วยเพิ่มเติมค่ะ

2. วันเดินทาง

2.1ยื่นเอกสารทั้งหมดที่จุดเช็คอิน เจ้าหน้าที่ขอดูหมดค่ะ

2.2 ผ่าน ตม. ยื่นพาสปอร์ต บอร์ดดิ้งพาส

2.3ขึ้นเครื่อง ยื่นพาสปอร์ต​บอร์ดิ้งพาส

3. ถึงเมืองไทย

3.1 ก่อนลงเครื่องแอร์จะแจก​เอสารให้กรอกค่ะ เป็นเอกสารให้กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับการกักตัว แบ่งเป็น Test &​Go หรือกักตัว 7 วัน

3.2 ลงเครื่องแล้วก็ไปเข้าคิวตรวจเช็คเอกสารทั้งหมดค่ะ

3.3 ผ่านจุดตรวจคนเข้าเมือง

3.4 รอรับกระเป๋า

3.5 ออกไปเจอรถโรงแรม ที่เราจองกักตัวไว้มารับ

3.6 รถพาไปที่ รพ.เพื่อตรวจ pcr รอบที่ 1 จากนั้นก็เข้าไปที่ โรงแรมค่ะ

ยาวแล้วพักก่อน ต่อไปจะมารีวิวโรงแรมที่กักตัวค่ะ

วันที่ไปคนเดินทางน้อยมากค่ะ เครื่องบินโล่ง ที่นั่งเยอะเลย