๓๐ มิถุนายน วันสุดท้ายที่บรัสเซล วันนี้เดินทางกลับบ้าน ไม่อยากตื่นเลย ให้ตายสิ กว่าจะได้นอน ตี ๑ แน่ะ ตื่น ๙ โมงเช้า ที่รักบอกไปกินข้าวก่อน แล้วค่อยขึ้นมาอาบน้ำ เพราะเดี๋ยวห้องอาหารโรงแรมจะปิดก่อน เราก็งอแงไม่ลุก เค้าบอกไม่รอนะ เลยรีบลุกเลยเรา เปลี่ยนเสื้อผ้า ตามไป ยังมีคนทานอยู่เลย แถมมีคนมาช้ากว่าเราอีก พ่อกับลูก เห็นพูดไทยกันด้วย เห็นไหมคะที่รัก บอกแล้วคนไทยเยอะ ทานเสร็จเก็บของ อาบน้ำ กลับบ้านเราดาเนียรออยู่ ดีใจไม่ต้องรอตรวจห้องเหมือนเมืองไทย ออกไปได้เลย ได้หมวกอาบน้ำมา ๒ ใบ ที่รักจิ๊กให้ ๑ ใบ ก็แถวบ้านไม่มีนี่นา
ขับรถออก โบกมือบาย ๆ เหมือนนางงาม บอกที่รักว่านางงามลาฟาลิซไง ขำๆๆๆ ที่รักคงปวดหัวหนักอีก ขับรถมุ่งหน้าไปบ้านอาที่รัก ลืมชื่อว่าชื่ออะไร ใกล้ๆ นามูร์ก่อนเข้าไปก็แวะเดินเล่นในสวนก่อน สวยจัง ต้นไม่ต้นเบ้อเร่อเลยอ่ะ มีคนบ้างเล็กน้อย เจอนกยูงด้วย แชะ ๑ รูป กะจะให้รำแพนให้ดูสักหน่อยก็ไม่เห็น วิ่งหนีนั่นล่ะ เดินจนสาแก่ใจ และปวดฉี่อ่ะ ไม่มีห้องน้ำเลย บอกที่รัก ปรานีปวดฉี่ ที่รักบอกให้อดทน เราก็เดินกระบิดๆ พอเข้าไปในป่า บอกที่รักขอปล่อยตรงนี้นะ ที่รักพยักหน้า เราก็เข้าป่าไป เฮ้อ สบายหน่อย แต่พอเราเสร็จธุระที่รักก็ปล่อยบ้าง ฮ่าๆๆๆ แหม ปวดเหมือนกันก็ไม่บอก เดินจนสาแก่ใจแล้ว ที่รักหาของป่าอีกแล้ว่ะ คราวก่อนไปหาฟืนในป่า คราวนี้หาหน่อไม้ค่ะ คือชอบต้นไผ่ อยู่ที่นี่ต้องซื้อต้นไผ่ ถ้าเป็นที่บ้านเราก็ขึ้นเขาไปตัดมา นี่กะจะเอามาปลูกที่บ้าน สวยด้วยนะ ขำจัง
มาถึงบ้านคุณน้าแล้ว แถวนี้คนอิตาลีอยู่เยอะ เห็นแต่ละบ้านเอาธงอิตาลีมาปักที่หน้าต่างด้วย กดออด ๑ ที เจ้าหมาหน้าหักก็ออกมาทักทาย หน้ามันตลกจริงๆนะ เหมือนเจอประตูปังใส่หน้าแน่ะ แล้วคุณน้าก็ออกมา น้าก็มาหิ้วเจ้าอะตอม มันก็ตะกุยอากาศใหญ่ เห่าบ๊อกๆ เออ ถ้าเป็นดาเนียคงหิ้วไม่ขึ้น ขนาดที่รักอุ้มยังไม่ไหวเลย ฮ่าๆๆๆ สักพักเจ้าอะตอมก็ไปโชว์การเล่นฟุตบอล คิดถึงดาเนีย เมื่อไหร่จะทำแบบนี้ได้บ้างนะ มีแต่กิน นอน พอเราเดินเข้าไปในบ้าน เห็นมีรูปเราด้วย ดีใจจัง เหมือนเป็น ครอบครัวเดียวกันแล้ว เป็นรูปที่ถ่ายกะที่รักที่เมืองไทย เสียดายน่าจะเอารูปที่สวยกว่านี้หน่อยนะ เราก็เข้าไปดื่มกาแฟ ทานบิสกิต น้า หลาน ก็คุยกันไป คุยกันดีจริงๆ เป็นเรื่องเป็นราว นานสองนาน ส่วนมากฟังๆดูก็เล่าเรื่องเราสองคนนี่ล่ะ ที่รักบอกว่าน้าดีใจมากที่เรามาเยี่ยมและได้เห็นปรานี สงสัยคนนี้ล่ะที่จะไปงานแต่งงานของเรา ฝันอีกแล้ว
ออกจากบ้านน้าก็ไปแวะทะเลสาปกัน ไปถึงก็นั่งเรือถีบ ครึ่งชั่วโมง แล้วก็ขับรถไปหาที่ข้าวเย็นกันที่ดินังต์ เป็นร้านอาหารไทย ที่รักก็ไปคุยกันถูกคอกับเจ้าของเร้าน เพราะเจ้าของร้านมีเมียเป็นคนไทย ที่รักเลยมีเรื่องคุยเยอะเลย แถมได้ดื่มเหล้าแม่โขงฟรี ๑ จอก ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รับประกาศนียบัตรว่าทำได้รสชาติแบบไทยแท้ แต่เราว่ายังไม่จัดจ้านพอนะ หมดค่าข้าว๖๐ ยูโร ร้านไทยนี้ต้องไปซื้อวัตถุดิบที่นามูร์มาปรุงอาหาร ร้านเดียวกันกับที่เราไปซื้อเลย ได้ไอเดียมาละ ปลูกผักขายซะดีไหมเรา ฮ่าๆๆๆ อยากทำงาน อยากได้เงิน
กลับถึงบ้าน๓ ทุ่มครึ่ง เอากระเป๋าขึ้นบ้านแต่ยังไม่เข้า ต่างคนก็รีบวิ่งไปดูดอกไม้กัน เฮ้อ คิดถึงดอกไม้ ต้นไม้ที่บ้าน ลุ้นว่าจะออกดอกหรือยัง แต่ก็ยังไม่ออกดอกสักที ต้นโตแล้วนะ ใบก็ใหญ่กว่ามือเราอีก
นั่งรถกลับบ้านทีไร มีความสุขทุกที เพราะได้กลับบ้านนั่นเอง แทนที่จะเสียดายว่าไม่ได้อยู่เที่ยวต่อ
นี่ก็คือทริป สนุกไปอีกแบบจ้า รักมองนามูรที่สุดเลย จุ๊บๆๆๆๆๆๆ














ขับรถออก โบกมือบาย ๆ เหมือนนางงาม บอกที่รักว่านางงามลาฟาลิซไง ขำๆๆๆ ที่รักคงปวดหัวหนักอีก ขับรถมุ่งหน้าไปบ้านอาที่รัก ลืมชื่อว่าชื่ออะไร ใกล้ๆ นามูร์ก่อนเข้าไปก็แวะเดินเล่นในสวนก่อน สวยจัง ต้นไม่ต้นเบ้อเร่อเลยอ่ะ มีคนบ้างเล็กน้อย เจอนกยูงด้วย แชะ ๑ รูป กะจะให้รำแพนให้ดูสักหน่อยก็ไม่เห็น วิ่งหนีนั่นล่ะ เดินจนสาแก่ใจ และปวดฉี่อ่ะ ไม่มีห้องน้ำเลย บอกที่รัก ปรานีปวดฉี่ ที่รักบอกให้อดทน เราก็เดินกระบิดๆ พอเข้าไปในป่า บอกที่รักขอปล่อยตรงนี้นะ ที่รักพยักหน้า เราก็เข้าป่าไป เฮ้อ สบายหน่อย แต่พอเราเสร็จธุระที่รักก็ปล่อยบ้าง ฮ่าๆๆๆ แหม ปวดเหมือนกันก็ไม่บอก เดินจนสาแก่ใจแล้ว ที่รักหาของป่าอีกแล้ว่ะ คราวก่อนไปหาฟืนในป่า คราวนี้หาหน่อไม้ค่ะ คือชอบต้นไผ่ อยู่ที่นี่ต้องซื้อต้นไผ่ ถ้าเป็นที่บ้านเราก็ขึ้นเขาไปตัดมา นี่กะจะเอามาปลูกที่บ้าน สวยด้วยนะ ขำจัง
มาถึงบ้านคุณน้าแล้ว แถวนี้คนอิตาลีอยู่เยอะ เห็นแต่ละบ้านเอาธงอิตาลีมาปักที่หน้าต่างด้วย กดออด ๑ ที เจ้าหมาหน้าหักก็ออกมาทักทาย หน้ามันตลกจริงๆนะ เหมือนเจอประตูปังใส่หน้าแน่ะ แล้วคุณน้าก็ออกมา น้าก็มาหิ้วเจ้าอะตอม มันก็ตะกุยอากาศใหญ่ เห่าบ๊อกๆ เออ ถ้าเป็นดาเนียคงหิ้วไม่ขึ้น ขนาดที่รักอุ้มยังไม่ไหวเลย ฮ่าๆๆๆ สักพักเจ้าอะตอมก็ไปโชว์การเล่นฟุตบอล คิดถึงดาเนีย เมื่อไหร่จะทำแบบนี้ได้บ้างนะ มีแต่กิน นอน พอเราเดินเข้าไปในบ้าน เห็นมีรูปเราด้วย ดีใจจัง เหมือนเป็น ครอบครัวเดียวกันแล้ว เป็นรูปที่ถ่ายกะที่รักที่เมืองไทย เสียดายน่าจะเอารูปที่สวยกว่านี้หน่อยนะ เราก็เข้าไปดื่มกาแฟ ทานบิสกิต น้า หลาน ก็คุยกันไป คุยกันดีจริงๆ เป็นเรื่องเป็นราว นานสองนาน ส่วนมากฟังๆดูก็เล่าเรื่องเราสองคนนี่ล่ะ ที่รักบอกว่าน้าดีใจมากที่เรามาเยี่ยมและได้เห็นปรานี สงสัยคนนี้ล่ะที่จะไปงานแต่งงานของเรา ฝันอีกแล้ว
ออกจากบ้านน้าก็ไปแวะทะเลสาปกัน ไปถึงก็นั่งเรือถีบ ครึ่งชั่วโมง แล้วก็ขับรถไปหาที่ข้าวเย็นกันที่ดินังต์ เป็นร้านอาหารไทย ที่รักก็ไปคุยกันถูกคอกับเจ้าของเร้าน เพราะเจ้าของร้านมีเมียเป็นคนไทย ที่รักเลยมีเรื่องคุยเยอะเลย แถมได้ดื่มเหล้าแม่โขงฟรี ๑ จอก ร้านนี้เป็นร้านที่ได้รับประกาศนียบัตรว่าทำได้รสชาติแบบไทยแท้ แต่เราว่ายังไม่จัดจ้านพอนะ หมดค่าข้าว๖๐ ยูโร ร้านไทยนี้ต้องไปซื้อวัตถุดิบที่นามูร์มาปรุงอาหาร ร้านเดียวกันกับที่เราไปซื้อเลย ได้ไอเดียมาละ ปลูกผักขายซะดีไหมเรา ฮ่าๆๆๆ อยากทำงาน อยากได้เงิน
กลับถึงบ้าน๓ ทุ่มครึ่ง เอากระเป๋าขึ้นบ้านแต่ยังไม่เข้า ต่างคนก็รีบวิ่งไปดูดอกไม้กัน เฮ้อ คิดถึงดอกไม้ ต้นไม้ที่บ้าน ลุ้นว่าจะออกดอกหรือยัง แต่ก็ยังไม่ออกดอกสักที ต้นโตแล้วนะ ใบก็ใหญ่กว่ามือเราอีก
นั่งรถกลับบ้านทีไร มีความสุขทุกที เพราะได้กลับบ้านนั่นเอง แทนที่จะเสียดายว่าไม่ได้อยู่เที่ยวต่อ
นี่ก็คือทริป สนุกไปอีกแบบจ้า รักมองนามูรที่สุดเลย จุ๊บๆๆๆๆๆๆ