๒๘ เมษายน ๒๕๕๑
จะเดินทางแล้วเหรอเนี่ย ๑๒ เมษายน กระเป๋าจัดเสร็จตั้งแต่เมื่อวาน ยัดเข้ายัดออก ซื้อมาใบ ๑ แต่มันใหญ่ไปใส่ของไปจะ ๓๐ กก ยังไม่เต็มเลย ต้องเปลี่ยนเอาใบเก่าที่ซื้อมานานแล้วจัดได้เป็นกระเป๋าโหลดกะลากค
เช้านี้มีญาติๆ มาผูกแขนให้เพราะจะเดินทางคืนนี้แล้ว ผูกแขนเสร็จชั้นก็เดินสายอาบน้ำมนต์ กลับมาก็เกือบได้เวลาแล้ว อาบน้ำแต่งตัวรอรถนัดไว้ ๕ โมงเย็น แต่กว่าจะได้ออกจากบ้านเกือบทุ่มแล้ว วันนี้วันสงกรานต์คิดว่ารถคงออกจากกรุงเทพเยอะ แวะไปรับน้องชายที่อยุธยา เกือบ ๔ ทุ่มแล้ว กว่าจะได้ออกมาเกือบ ๕ ทุ่มเพราะพากันกินก๋วยเตี๋ยวก่อน คิดว่าจากนี้ไปสนามบินน่าจะทัน ๑ ชม ไปถึงก่อนเที่ยงคืนแน่นอน
ขับรถมาสายมอเตอร์เวย์พอเข้าเขตลาดกระบัง ให้ตายสิรถติดจัง ไม่ขยับเลย นี่ชั้นจะตกเครื่องไหมเนี่ย เจอพิษสงกรานต์แล้วไหมล่ะ พอรถออกตัวได้ค่อยโล่งหน่อย บอกคนขับจอดรถประตู ๘ เลยนะ รถจอดได้รีบวิ่งเข้าห้องน้ำให้น้องชายลากกระเป๋ามาตาม แล้ววิ่งมาที่เคาเตอร์เช็คอิน แถวโล่งเลยเพราะเค้าใกล้ปิดแล้ว เจ้าหน้าที่ดูพาสปอร์ต ถามเดินทางครั้งแรกหรอค่ะ ตอบไปตามนั้นแถมเราก็ไม่ขอความช่วยเหลืออะไรเลย ทั้งๆที่ไม่เคยเดินทาง แถมต้องต่อเครื่องอีกต่างหาก ลากกระเป๋ามาชั่ง น้ำหนักเกิน แต่เจ้าหน้าที่ก็หยวนๆ ให้ หารู้ไม่ว่ากระเป๋าก๊อกแก๊กอีก ๒ ใบเราไม่เอามาให้ดู
เสร็จธุระก็มาคุยกับพ่อแม่น้าป้าน้อง คืนนี้มีญาติเราที่เดินทางมาจากอเมริกา เครื่องลงแล้วด้วย ก็เลยมส่งเราด้วยพอดี คิดดูสวนทางกันทางเครื่องบิน ตลกดี เค้ามาเราไป ไม่ได้เจอกับป้าคนนี้นานแล้ว ป้ายังเหมือนเดิมเลย ส่วนเราก็แก่ทันป้าแล้ว
ตั้งใจว่ามาถึงจะพาญาติๆทัวร์สนามบินสักหน่อย แต่เวลาไม่อำนวย ใกล้ตี ๑ แล้ว ต้องไปต่อแถวเช็คพาสปอร์ตผ่านตม. อีก ลาแล้วนะพ่อจ๋าแม่จ๋า มาขอกอด ๑ ที เราก็รีบเข้าไป คนมาส่งจะได้ไม่ต้องกลับบ้านดึก
ตรวจ ตม ที่รักก็โทรมา มัวแต่คุยโทรศัพท์จนเจ้าหน้าที่เคาเตอร์ไล่ไปอีกเคาเตอร์ ๑ มือก็กรอกไปคุยไป จนเจ้าหน้าที่อีกคนช่วยกรอกให้ จริงๆจะวางแล้วคุยไม่นาน แต่เจ้าหน้าที่ใจร้อนจัง คนผู้หญิงคงหมั่นไส้ หนอยแน่นังเมียฝรั่ง
ผ่านมาแล้ว ตม ตรวจกระเป๋าอีกรอบ เสร็จละลงไปรอเครื่อง ทำไมทางชันจัง เออ ทำไมไม่เห็นนาคกวนเกษียณสมุทรล่ะ หรือว่าเรามาผิดทาง โอ๊ย ร้านค้าอะไรเนี่ยเยอะแยะ อ้าวนึกได้ ลืมกดเงินมาแลกเงินยูโร โทรศัพท์ตังค์หมด ไม่ได้เติม โทรไปบอกน้องชายเติมเงินให้หน่อยผ่านเอทีเอ็ม เค้าก็เติมให้แต่ขอบ่น ๒ นาทีที่เราไม่เตรียมพร้อม ในนี้ไม่มีตู้เอทีเอ็มด้วย สรุปไม่มีเงินติดกระเป๋าเลย โทรหาแม่ว่าถึงไหนแล้ว พอดีแม่บอกเราว่าเจอกระเป๋าเราตกในรถ คงเป็นช่วงล้วงเข้าออกมือถือแหงเลย แหวนทองที่จะเอามาให้ที่รักก็อยู่ในนั้นด้วย ก็เลยบอกแม่ เก็บไว้ก่อน เดี๋ยวมาเอาทีหลัง
มานั่งรอเครื่อง ที่รักโทรมาอีกรอบ เราก็รายงานไป ตอนนี้รอเครื่องค่ะ พ่อกับแม่มาส่งกลับไปแล้ว บลาๆๆๆๆ เกือบครึ่งชั่วโมง ขอบคุณนะที่โทรมาเป็นเพื่อน รู้ว่าเรากลัวเครื่องบิน บอกเราให้ดื่มวอดกาแล้วก็หลับไปเลย ตื่นมาก็ถึงอัมสเตอร์ดัมพอดี ตอนนี้เริ่มนิ่งๆละ นี่ชั้นจะไปไหนเนี่ย จะไปหาผู้ชายเหรอ ตายแล้วปรานี บ้าไปหรือเปล่า คิดช้าไปหรือเปล่าฮ่าๆๆๆ
เอาวะไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว เดินหน้าต่อไป เราไม่ใช่คนแรกในโลกหรอกนะ กรรมดีที่ทำไว้คงส่งผลให้เราได้ดิบได้ดีกับเขาบ้าง ช่วงนี้ก็นั่งดูหน้าผู้โดยสารคนอื่นไป เค้าก็นั่งฟังเพลง อ่านหนังสือ โทรศัพท์ เราก็หยิบเพลงมาฟังบ้างรอเวลาเครื่องออก
และแล้วก็ได้เวลาตรวจบอร์ดดิ้งพาส วีไอพีไปก่อน ชั้น ๑ ไปก่อน คนที่ต้องการคนดูแลไปก่อน ส่วนพวกชั้น ๓ อย่างเรา ชั้นประหยัดสุดท้าย ฮ่าๆๆๆ
No comments:
Post a Comment