Saturday, January 23, 2016

Frozen in Vielsal, Belgium Jan 2016 อ่างเก็บน้ำกลายเป็นธารน้ำแข็ง

วันที่นั่งรถไฟไปเที่ยว พอรถออกจากสถานี
แล้วเพิ่งจะเห็นว่าที่อ่างเก็บน้ำในเมืองนั้นขาวโพลน
จับตัวกันเย็นจนเป็นแผ่นน้ำแข็งที่ผิวน้ำ เลยบอกตัวเองว่าต้องมาเก็บภาพนี้ให้ได้
รุ่งขึ้นไม่รอช้า เพราะเดี๋ยวจะละลายก่อน เดินเท้าออกจากบ้านไป เพราะมอไซต์งล้มแน่
ถนนลื่นขนาดนี้ ดีว่าตอนไปนั้นทางลงเนิน ความชันระดับ ๓๐ เปอร์เซ็นต์
ทางเท้าที่เดินนั้นก็เป็นน้ำแข็ง ต้องคอยเบรกเวลาลื่น
วางเท้าแบบเหมือนคนที่เล่นสกีคือหันปลายเท้าเข้าหากัน

มีคนออกมาเดินเล่นบ้างประปราย ทั้งจูงหมา คนวิ่งจ้อกกิ้ง
มีพ่อ...แม่คู่นึงเข็นรถเข็นเด็กมาเดินเล่น แต่มาแป้บเดียวก็กลับ 
ข้างอ่างเก็บน้ำบ้านพักฮอลิเดย์ เห็นมีคนมาพักอยู่ ปกติหน้าร้อนห้องพักจะเต็มเลย
ได้เก็บภาพสมใจอยาก พยายามมากที่จะให้ภาพออกมาเหมือนอย่างที่ตาเราเห็น
แต่ฝีมือกล้องวัดแสงไม่เป็นไรเลย แต่ก็พอใจอยู่
‪#‎witnter‬ ‪#‎frozen‬ ‪#‎ardennes‬ ‪#‎belgiumwinter‬ ‪#‎winnterlife




















Wednesday, January 06, 2016

วัฒนธรรมการกินชีส

บันทึกเดือนธันวาคม
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้รับเชิญไปทานกลางวันบ้านเพื่อนพี่เป้า
ในหมู่เพื่อนเขานัดเจอกัน เลยหาเมนูมื้อเที่ยง ตกลงที่เมนูชีส
พี่เป้าทำความเข้าใจกับเราก่อนว่า คือกลางวันนี้มีแต่ชีสนะ ไม่มีเนื้อ
ถามไปว่า กินเป็นเรียกน้ำย่อยแบบคอกเทลหรือยังไง หรือกินเป็นมื้อ
แกบอกว่ากินเป็นอาหารมื้อนึงเลย กินกับขนมปังและสลัด...
ถามย้ำไปหัวเราะไป น้ำตาจะไหล กินชีสจริงๆหรือ
สงสัยต้องรองท้องด้วยมาม่าก่อนไปเสียแล้วเรา

พอไปถึงบ้านเพื่อน เห็นขนมปังแท่งยาวเรียงอยู่ พร้อมชีส ๑๔ ชนิด
ทีเขียนชื่อปักไว้ให้รู้ มีแฮมเผื่อไว้ กับ ซาลามิ อยู่จ่อมนึง
เวลาตักก็ไปตัดแบ่งชีสแต่ละชนิด แล้วแต่เลือก ตักสลัด และหยิบขนมปัง
เวลากินก็เอามีดปาดชีสกะขนมปัง แล้วกินเลย ตักผักสลัดแนมปาก
คิดนะเหมือนเรากินตักน้ำพริกใส่ข้าวเข้าปาก ตามด้วยผักแนม
เราตัดเสิร์ฟชีสไปทีเดียว แล้วไปตักสลัดมากินเล่น แค่นี้ก็แน่นท้องเนาะ
พักสักหน่อยก็เสิร์ฟของหวานกัน แฟนเพื่อนที่เป็นคุณหมอทำชีสเค้กมา
เป็นชีสนมแพะด้วยนะ รสชาติหวานเปรี้ยวมะนาว ตัดกับบิสกิตหวานๆ ก็ไปกันได้ดีมากสำหรับฝรั่ง ส่วนเราชอบบิสกิตมากกว่า
สรุปว่าวันนั้นได้กินชีสครบเครื่อง ทั้งเรียกน้ำย่อย จานหลักและของหวาน
เมนูชีส รสชาติไม่น่ากลัวอย่างที่คิด แค่เหม็นเหมือนถุงเท้าไม่ซักแค่นั้นเอง อิอิ






Friday, January 01, 2016

Choucroute ‎เมนูกะหล่ำปลีดองและไส้กรอก กินวันปีใหม่เบลเยียม‬

#‎Choucroute‬ ‪#‎เมนูชูครุท‬ ‪#‎กะหล่ำปลีดองและไส้กรอก‬
‪#‎วัฒนธรรมการกิน‬
วันนี้ทำเมนูนี้ล่ะ เรียกได้ว่าวันที่ ๑ มกรา เราจะต้องกินเมนูนี้ กินเอาโชคลาภหรือเปล่าไม่รู้ เวลากินเราจะเอาเงินเหรียญสอดไว้ใต้จาน เอาไว้เรียกเงินเรียกทอง อาหารนี้เป็นเมนูหน้าหนาว ดั้งเดิมมาจากฝรั่งเศสเขตอัลซาส ไปอ่านข้อมูลมาว่าเป็นเมนูภูมิปัญญาชาวบ้านในการถนอมอาหาร ผักกะหล่ำปลีดอง (คล้ายกิมจิเนาะ หรือผักดองบ้านเรานี่ล่ะนะ) ไส้กรอกรมควัน มีหลายไส้กรอกเหมือนกันนะ ขาหมูรมควัน เบคอนรมควัน แต่ว่าวันนี้ไม่...มีเบคอน






วิธีทำก็ง่ายมากผัดหอมหัวใหญ่ เอากะหล่ำปลีตามลงไป ปรุงรสกะหล่ำปลีด้วยเครื่องเทศ เติมน้ำนิดหน่อย ต้นตำหรับจะใส่ไวน์ขาวแต่เราไม่ค่อยชอบ จากนั้นตามด้วยไส้กรอกและขาหมู เสร็จแล้ว ปิดฝาหม้อลดไฟตุ๋นไปชั่วโมงครึ่ง จะกินกับมันฝรั่งต้มหรือมันบดก็้ได้ บางคนกินเป็นแซนด์วิวิชเลยนะ มีซอสจิ้มกับไส้กรอกคือมูตาร์ด เป็นครีมสีเหลืองรสชาติเหมือนวาซาบิ บอกเลยว่าเมนูนี้จุกมาก





ตอนต้มมันฝรั่งทำมันบด จิบแชมเปญไป ๑ แก้ว เมา ลืมหม้อมันฝรั่งไปเลยปรากฎว่าหม้อเริ่มไหม้ได้กลิ่นตุๆรีบวิ่งเข้าไปดู พี่เป้าตามมา พูดเสียงลอยๆว่า " ช่างเป็นการเริ่มต้นปีที่ดีอะไรเยี่ยงนี้ " หัวเราะไปแก้เขิน แล้วพูดไปว่า ในภาษาไทยมีคำเปรียบเทียบอย่างหนึ่งกับการใช้ชีวิตคู่ "อยู่กันก้นหม้อข้าวยังไม่ทันดำ " แล้วก็อธิบายไป พี่เป้าพยักหน้าหงึกๆเหมือนจะเข้าใจ ที่ไหม้วันนี้มันเป็นกุศโลบาย แก้เคล็ด นะคะ ฮ่าๆๆ